Ingredientไดไฮดรอกซีอะซิโตน (Dihydroxyacetone - DHA): สารสำคัญในผลิตภัณฑ์ผิวแทนไร้แดด

ไดไฮดรอกซีอะซิโตน (Dihydroxyacetone – DHA): สารสำคัญในผลิตภัณฑ์ผิวแทนไร้แดด

Share

ไดไฮดรอกซีอะซิโตน (Dihydroxyacetone) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อย่อว่า DHA เป็นส่วนผสมหลักที่อยู่เบื้องหลังผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผิวให้เป็นสีแทนโดยไม่ต้องอาศัยแสงแดด (Sunless Tanning Products) หรือที่เรียกกันติดปากว่า “เซลฟ์แทนนิ่ง” (Self-tanning) มันคืออะไร และทำงานอย่างไรกับผิวของเรา? มาทำความเข้าใจกันครับ

Dihydroxyacetone (DHA) คืออะไร?

DHA เป็นสารประกอบประเภท คาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว (Simple Carbohydrate) หรือน้ำตาลชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นผงผลึกสีขาว สามารถได้มาจากแหล่งธรรมชาติ เช่น การหมักน้ำตาลจากอ้อยหรือหัวบีท หรือผลิตขึ้นจากการสังเคราะห์ทางเคมี

DHA ทำให้ผิวเป็นสีแทนได้อย่างไร? (กลไกการทำงาน)

ความสามารถพิเศษของ DHA คือการทำ ปฏิกิริยาเคมี กับ กรดอะมิโน (Amino Acids) ซึ่งเป็นส่วนประกอบของโปรตีนและเปปไทด์ที่อยู่ใน เซลล์ผิวหนังชั้นนอกสุดที่ตายแล้ว (Stratum Corneum หรือ ชั้นขี้ไคล) ปฏิกิริยานี้เรียกว่า ปฏิกิริยาเมลลาร์ด (Maillard Reaction) ซึ่งเป็นปฏิกิริยาการเกิดสีน้ำตาลประเภทเดียวกับที่เกิดขึ้นเมื่ออาหารได้รับความร้อน (เช่น ขนมปังปิ้ง หรือเนื้อย่าง) แต่เกิดขึ้นในสภาวะและรายละเอียดที่แตกต่างกันบนผิวหนัง

ผลลัพธ์จากปฏิกิริยานี้คือการเกิดสารประกอบสีน้ำตาลที่เรียกว่า เมลานอยดิน (Melanoidins) ซึ่งจะติดอยู่กับเซลล์ผิวชั้นนอกสุด ทำให้ผิวดูมีสีเข้มขึ้นคล้ายกับสีผิวแทนจากการอาบแดด

สิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจ:

  • สีแทนที่เกิดจาก DHA เกิดขึ้นที่ ผิวหนังชั้นนอกสุดเท่านั้น
  • เป็นปฏิกิริยาทางเคมี ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิตเม็ดสีเมลานิน (Melanin) ใต้ผิวหนังเหมือนการเกิดผิวแทนจากแสงแดด
  • สีผิวแทนจาก DHA เป็นสีชั่วคราว เพราะเซลล์ผิวชั้นนอกสุดเหล่านี้จะมีการผลัดเปลี่ยนตามธรรมชาติ สีแทนจะค่อยๆ จางลงและหลุดลอกออกไปพร้อมกับเซลล์ผิวที่ตายแล้ว โดยทั่วไปจะอยู่ได้ประมาณ 3-10 วัน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแล

ประโยชน์และการใช้งาน:

  • สร้างสีผิวแทนโดยไม่ต้องตากแดด: เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าในการมีผิวสีแทน โดยหลีกเลี่ยงอันตรายจากรังสี UV ในแสงแดด ซึ่งเป็นสาเหตุของผิวไหม้, ริ้วรอยก่อนวัย, และเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งผิวหนัง
  • ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ: ในบางผลิตภัณฑ์อาจใช้ DHA ความเข้มข้นต่ำๆ เพื่อให้ผิวดูมีสีโกลว์ (Glow) หรือช่วยให้สีผิวดูสม่ำเสมอขึ้นเล็กน้อย

ผลิตภัณฑ์ที่มักพบ DHA:

  • โลชั่นผิวแทน (Self-tanning Lotions/Creams)
  • มูสผิวแทน (Self-tanning Mousses)
  • สเปรย์ผิวแทน (Self-tanning Sprays)
  • แผ่นเช็ดผิวแทน (Self-tanning Wipes)
  • หยดผิวแทน (Tanning Drops – ใช้ผสมกับมอยส์เจอไรเซอร์)

ปัจจัยที่มีผลต่อสีผิวแทนจาก DHA:

  • ความเข้มข้นของ DHA: ยิ่งความเข้มข้นสูง สีแทนที่ได้ก็จะยิ่งเข้มขึ้น (แต่ก็มีจุดอิ่มตัว)
  • ค่า pH ของผิวและผลิตภัณฑ์: DHA ทำงานได้ดีที่สุดในช่วงค่า pH ที่เหมาะสม
  • การเตรียมผิว: การขัดผิว (Exfoliation) ก่อนทาผลิตภัณฑ์เป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อกำจัดเซลล์ผิวเก่าที่ไม่สม่ำเสมอออกไป ทำให้ DHA ทำปฏิกิริยาได้ทั่วถึงและสีดูเรียบเนียน บริเวณผิวที่แห้งกว่า (เช่น ข้อศอก หัวเข่า) อาจดูดซับ DHA มากกว่า ทำให้สีเข้มกว่าจุดอื่น
  • เทคนิคการทา: ต้องทาให้สม่ำเสมอและทั่วถึง เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดคราบหรือรอยด่าง

ความปลอดภัยและข้อควรพิจารณา:

  • ความปลอดภัยในการใช้ทาภายนอก: DHA ได้รับการรับรองจากหน่วยงานกำกับดูแลสากล (เช่น FDA ของสหรัฐอเมริกา, SCCS ของสหภาพยุโรป) ว่า ปลอดภัยสำหรับการใช้ทาบนผิวหนังภายนอก เนื่องจากทำปฏิกิริยาเฉพาะกับเซลล์ผิวชั้นนอกสุดที่ตายแล้ว
  • ไม่ช่วยป้องกันแสงแดด (สำคัญที่สุด!): สีผิวแทนที่ได้จาก DHA ไม่ได้ ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันผิวจากรังสี UV เหมือนกับเม็ดสีเมลานินที่ร่างกายสร้างขึ้นเมื่อโดนแดด คุณยังคงต้องทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงๆ เป็นประจำทุกวัน เพื่อปกป้องผิวจากอันตรายของแสงแดด
  • สีอาจไม่สม่ำเสมอ/เป็นคราบ: เป็นปัญหาที่พบบ่อย หากเตรียมผิวไม่ดีพอ หรือทาไม่สม่ำเสมอ
  • กลิ่นเฉพาะตัว: ปฏิกิริยาระหว่าง DHA กับผิวหนังมักทำให้เกิดกลิ่นเฉพาะตัว (บางคนบอกว่าคล้ายกลิ่นขนมปังอบ หรือกลิ่นโลหะจางๆ) ซึ่งผู้ผลิตมักใส่น้ำหอมเพื่อกลบกลิ่นนี้
  • อาจเปื้อนเสื้อผ้า: ขณะที่ผลิตภัณฑ์ยังไม่แห้งสนิท หรือก่อนที่จะล้างผลิตภัณฑ์ส่วนเกินออกตามคำแนะนำ อาจเปื้อนเสื้อผ้าหรือผ้าปูที่นอนได้
  • ข้อควรระวังเรื่องการสูดดม/สัมผัสเยื่อบุ: FDA แนะนำให้หลีกเลี่ยงการสูดดม DHA (จากผลิตภัณฑ์ประเภทสเปรย์) และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับริมฝีปาก ดวงตา หรือเยื่อบุภายในจมูก ในการทำสเปรย์ผิวแทนโดยผู้ให้บริการ ควรมีการป้องกันบริเวณเหล่านี้
  • การแพ้หรือระคายเคือง: พบได้น้อยมาก แต่ก็มีความเป็นไปได้ ควรทดสอบผลิตภัณฑ์ในบริเวณเล็กๆ ก่อนใช้จริง โดยเฉพาะผู้มีผิวบอบบาง
  • อาจทำให้ผิวแห้งเล็กน้อย: ผู้ใช้บางรายอาจรู้สึกว่าผิวแห้งลงเล็กน้อยหลังใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี DHA ควรใช้มอยส์เจอไรเซอร์ร่วมด้วย

สรุป:

ไดไฮดรอกซีอะซิโตน (DHA) เป็นสารสำคัญที่ทำให้เกิดสีผิวแทนในผลิตภัณฑ์ Sunless Tanning โดยทำปฏิกิริยาเคมีอย่างปลอดภัยกับเซลล์ผิวหนังชั้นนอกสุดที่ตายแล้ว เกิดเป็นสีน้ำตาลชั่วคราวที่เลียนแบบผิวแทน เป็นทางเลือกที่ช่วยให้มีผิวสีแทนโดยไม่ต้องเสี่ยงกับอันตรายจากรังสี UV อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องจำคือ สีผิวแทนจาก DHA ไม่มีคุณสมบัติในการป้องกันแสงแดด และผู้ใช้ยังคงต้องทาครีมกันแดดเป็นประจำเสมอ การเตรียมผิวและการทาอย่างถูกวิธีจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและสม่ำเสมอ

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments

เรื่องที่น่าสนใจ

เรื่องน่ารู้อื่นๆ