บทความเคล็ดลับดูแลผิวสำหรับคน "ผิวมัน" และ "เป็นสิวง่าย" (ฉบับเข้าใจง่าย ใช้ได้จริงในอากาศเมืองไทย!)

เคล็ดลับดูแลผิวสำหรับคน “ผิวมัน” และ “เป็นสิวง่าย” (ฉบับเข้าใจง่าย ใช้ได้จริงในอากาศเมืองไทย!)

Share

ผิวมันและเป็นสิวง่าย ถือเป็นสภาพผิวที่พบบ่อย โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนชื้นแบบกรุงเทพฯ (อย่างช่วงนี้) ทำให้หลายคนเจอปัญหาหน้ามันเยิ้ม รูขุมขนกว้าง สิวอุดตัน สิวอักเสบ แถมยังทิ้งรอยไว้อีก แต่ไม่ต้องกังวลครับ การดูแลอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอช่วยให้ผิวดีขึ้นได้แน่นอน นี่คือเคล็ดลับดีๆ ที่รวบรวมมาให้:

1. ล้างหน้าให้สะอาด แต่ “อ่อนโยน”:

  • ความถี่: ล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น ก็เพียงพอแล้ว การล้างหน้าบ่อยเกินไปจะยิ่งกระตุ้นให้ผิวผลิตน้ำมันมากขึ้น
  • ผลิตภัณฑ์: เลือกใช้คลีนเซอร์สูตรเจล (Gel Cleanser) หรือ โฟมที่ไม่มีฟองมาก (Gentle Foaming Cleanser) ที่ระบุว่า “Oil-Free” (ปราศจากน้ำมัน) และ “Non-Comedogenic” (ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน)
  • ส่วนผสมน่าสนใจ: มองหา Salicylic Acid (BHA) ซึ่งช่วยทำความสะอาดรูขุมขนได้ล้ำลึก หรือสารทำความสะอาดที่อ่อนโยน
  • เทคนิค: ใช้น้ำอุณหภูมิปกติ (ไม่ร้อนไม่เย็นจัด) นวดเบาๆ แล้วล้างออก อย่าถูหน้าแรงๆ / สำหรับตอนเย็น หากแต่งหน้าหรือทากันแดด อาจพิจารณา Double Cleansing โดยใช้ Cleansing Oil หรือ Balm (เลือกสูตรไม่อุดตัน) นวดก่อน แล้วตามด้วยเจลหรือโฟมล้างหน้า

2. เลือกใช้ “โทนเนอร์” หรือ “เอสเซนส์” ที่ช่วยคุมมัน/ลดสิว (ถ้าต้องการ):

  • จุดประสงค์: ช่วยเช็ดสิ่งตกค้าง ปรับสมดุลผิวหลังล้างหน้า (แม้จะไม่จำเป็นเท่าสมัยก่อน) และช่วยนำส่งส่วนผสมบำรุง
  • ผลิตภัณฑ์: เลือกสูตร ปราศจากแอลกอฮอล์ (Alcohol-Free) เพื่อไม่ให้ผิวแห้งระคายเคือง
  • ส่วนผสมน่าสนใจ: Salicylic Acid (BHA), Niacinamide (Vitamin B3) ช่วยควบคุมความมัน ลดการอักเสบ, Witch Hazel (ช่วยสมานผิว แต่บางคนอาจแพ้), หรือสารให้ความชุ่มชื้นเบาๆ

3. ใช้ “ผลิตภัณฑ์รักษาสิว/ควบคุมความมัน” เฉพาะจุดหรือทั่วหน้า:

  • จุดประสงค์: จัดการปัญหาสิวอุดตัน สิวอักเสบ ควบคุมความมัน และลดรอยสิว
  • ส่วนผสมดาวเด่น:
    • Salicylic Acid (BHA): ละลายในน้ำมันได้ดี ช่วยผลัดเซลล์ผิวในรูขุมขน ลดสิวอุดตัน
    • Niacinamide (Vitamin B3): ช่วยลดความมัน ลดการอักเสบ ลดรอยแดง ทำให้ผิวกระจ่างใส เสริมเกราะป้องกันผิว
    • Benzoyl Peroxide (BP): ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย P.acnes ที่ก่อสิว (เหมาะสำหรับสิวอักเสบ มักใช้เป็นยาแต้มสิวเฉพาะจุด เริ่มจาก%น้อยๆ)
    • Retinoids (กลุ่มอนุพันธ์วิตามินเอ เช่น Adapalene, Tretinoin): ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตัน ลดการอักเสบ (มีทั้งแบบ OTC และยาตามใบสั่งแพทย์ ต้องเริ่มใช้อย่างระมัดระวัง และทากันแดดเข้มงวด)
    • Azelaic Acid: ช่วยลดสิว ลดรอยดำ รอยแดง ต้านการอักเสบ
    • Sulfur (กำมะถัน): ช่วยให้สิวแห้ง ลดการอักเสบ มักอยู่ในยาแต้มสิวหรือมาส์ก
  • วิธีใช้: เริ่มจากความเข้มข้นน้อยๆ ทาบางๆ และสังเกตการตอบสนองของผิว

4. “มอยส์เจอไรเซอร์” สำคัญมาก ห้ามขาด!

  • ความเข้าใจผิด: คนผิวมันมักคิดว่าไม่ต้องทามอยส์เจอไรเซอร์ แต่จริงๆ แล้ว ผิวที่ขาดความชุ่มชื้น (Dehydrated) จะยิ่งผลิตน้ำมันออกมาทดแทน
  • ผลิตภัณฑ์: เลือกมอยส์เจอไรเซอร์เนื้อบางเบา เช่น เนื้อเจล (Gel), เจลครีม (Gel-Cream), หรือโลชั่น (Lotion) ที่เป็นสูตร Oil-Free และ Non-Comedogenic
  • ส่วนผสมน่าสนใจ: Hyaluronic Acid, Glycerin (ให้ความชุ่มชื้นแบบไม่หนักผิว), Ceramides (เสริมเกราะป้องกันผิว), Niacinamide

5. “ครีมกันแดด” คือสิ่งจำเป็นที่สุด ปกป้องผิวทุกวัน:

  • ความสำคัญ: แสงแดดกระตุ้นให้ต่อมไขมันทำงานหนักขึ้น ทำให้หน้ามันกว่าเดิม และทำให้รอยสิวเข้มขึ้นหรือหายช้าลง การทากันแดดจึงสำคัญมาก
  • ผลิตภัณฑ์: เลือกกันแดดสูตร Oil-Free, Non-Comedogenic ที่มีเนื้อสัมผัสบางเบา (Fluid, Gel, Light Lotion) ไม่เหนียวเหนอะหนะ
  • ค่าการปกป้อง: เลือก SPF 30-50+ และ PA+++ หรือ PA++++ (ตามที่แนะนำในเคล็ดลับการเลือกกันแดด)
  • ประเภท: บางคนอาจชอบ Physical Sunscreen (Zinc Oxide) เพราะรู้สึกสบายผิวและช่วยปลอบประโลมผิวที่เป็นสิวได้

6. ผลัดเซลล์ผิวอย่าง “เหมาะสม”:

  • จุดประสงค์: ช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้ว ลดการอุดตัน ทำให้ผิวกระจ่างใส รอยสิวจางลง
  • ประเภท:
    • Chemical Exfoliants: BHA (Salicylic Acid) เหมาะสุดสำหรับผิวมัน/เป็นสิว เพราะละลายในไขมัน ซึมลงรูขุมขนได้ดี / AHA (เช่น Glycolic Acid, Lactic Acid) ช่วยผลัดเซลล์ผิวชั้นนอก ลดรอยสิว
    • Physical Exfoliants: สครับขัดหน้า (ควรเลือกเม็ดสครับละเอียด ไม่บาดผิว และทำอย่างเบามือมากๆ หรือหลีกเลี่ยงไปเลยหากมีสิวอักเสบ)
  • ความถี่: 1-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ก็เพียงพอ (ขึ้นกับความเข้มข้นของผลิตภัณฑ์และการตอบสนองของผิว) การผลัดเซลล์ผิวบ่อยเกินไปจะทำลายเกราะป้องกันผิว ทำให้ผิวอ่อนแอและระคายเคืองง่ายขึ้น

7. ปรับเปลี่ยน “ไลฟ์สไตล์” เล็กๆ น้อยๆ:

  • ห้ามแกะ บีบ เค้นสิว: เพราะจะทำให้เกิดการอักเสบมากขึ้น เป็นรอยแผลเป็น และอาจทำให้สิวลาม
  • รักษาความสะอาด: เปลี่ยนปลอกหมอนบ่อยๆ เช็ดหน้าจอโทรศัพท์ หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้าโดยไม่จำเป็น
  • ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผม: ระวังไม่ให้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมโดนใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณกรอบหน้าและหน้าผาก
  • เมคอัพ: เลือกเครื่องสำอางที่ระบุว่า Oil-Free, Non-Comedogenic และต้องล้างเครื่องสำอางออกให้หมดจดก่อนนอนเสมอ ทำความสะอาดแปรงหรือฟองน้ำแต่งหน้าเป็นประจำ
  • อาหาร: ลองสังเกตตัวเอง บางคนอาจสิวเห่อเมื่อทานอาหารประเภทนมวัว, ของหวานจัด, หรืออาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลสูง (High Glycemic) การดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอดีต่อผิวเสมอ
  • ความเครียด: ความเครียดส่งผลต่อฮอร์โมนและกระตุ้นการเกิดสิวได้ พยายามหาวิธีผ่อนคลายที่เหมาะสม

ข้อควรจำ: การดูแลผิวต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอ อย่าเพิ่งท้อหากยังไม่เห็นผลทันที และถ้าหากมีปัญหาสิวรุนแรง เรื้อรัง หรือไม่แน่ใจ ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่ตรงจุดที่สุดครับ

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments

เรื่องที่น่าสนใจ

เรื่องน่ารู้อื่นๆ