ก้าวเข้าสู่วัยรุ่น (Teenage) นอกจากจะมีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายหลายอย่างแล้ว เรื่อง “กลิ่นตัว” ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่มักจะตามมา ทำให้วัยรุ่นหลายคนอาจรู้สึกกังวล ไม่มั่นใจ หรือถึงขั้นอายได้เลย
ก่อนอื่นต้องบอกว่า กลิ่นตัวในช่วงวัยรุ่นเป็นเรื่องธรรมชาติมากๆ ไม่ใช่เรื่องน่าอายหรือผิดปกติอะไรเลย มันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่ไปกระตุ้น “ต่อมเหงื่อชนิดพิเศษ” (Apocrine Glands) บริเวณรักแร้และขาหนีบให้ทำงานมากขึ้น ซึ่งเหงื่อชนิดนี้เมื่อผสมกับแบคทีเรียบนผิวหนัง ก็จะทำให้เกิดกลิ่นเฉพาะตัวขึ้นมานั่นเอง บวกกับอากาศร้อนๆ อย่างบ้านเรา (ตอนนี้ก็เข้าสู่ช่วงหน้าร้อนเต็มตัวแล้ว) ยิ่งทำให้เหงื่อออกง่าย กลิ่นก็อาจจะชัดเจนขึ้น
แต่ไม่ต้องห่วง! เรามีเคล็ดลับง่ายๆ ที่จะช่วยให้น้องๆ วัยรุ่นรับมือกับปัญหากลิ่นตัว และกลับมามั่นใจในตัวเองได้เต็มที่:
1. สุขอนามัยต้องเป๊ะ! (Hygiene First!)
- อาบน้ำทุกวัน: อย่างน้อยวันละ 1-2 ครั้ง (เช้า-เย็น) โดยเฉพาะหลังเล่นกีฬา หรือทำกิจกรรมที่เหงื่อออกมาก เน้นทำความสะอาดบริเวณที่มีต่อมเหงื่อเยอะ เช่น รักแร้, ขาหนีบ, เท้า
- ใช้สบู่ช่วย: เลือกใช้สบู่ก้อนหรือสบู่เหลว อาจลองเลือกสูตรที่ช่วยยับยั้งแบคทีเรีย (Antibacterial Soap) บ้างก็ได้ แต่สบู่ทั่วไปก็ใช้ได้ดี แค่ต้องถูให้ทั่วถึง
- เช็ดตัวให้แห้งสนิท: หลังอาบน้ำ เช็ดตัวให้แห้งสนิท โดยเฉพาะตามซอกหลืบต่างๆ เพราะความชื้นเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียชั้นดี
2. เลือกใช้ “ตัวช่วย” ระงับกลิ่นกาย:
- รู้จัก Deodorant vs. Antiperspirant:
- ดีโอโดแรนท์ (Deodorant): ช่วย “ระงับกลิ่น” โดยอาจมีส่วนผสมของน้ำหอมเพื่อกลบกลิ่น หรือสารที่ช่วยยับยั้งแบคทีเรีย แต่ ไม่ได้ลดเหงื่อ
- แอนติเพอสพิแรนท์ (Antiperspirant): ช่วย “ลดเหงื่อ” โดยมีสาร (เช่น อะลูมิเนียม คลอโรไฮเดรต) ไปช่วยบล็อกท่อเหงื่อชั่วคราว ทำให้เหงื่อออกน้อยลง เมื่อเหงื่อน้อย แบคทีเรียก็มีอาหารน้อยลง กลิ่นก็ลดลงไปด้วย
- แบบผสม: ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ในท้องตลาดมักจะเป็นแบบผสม คือทั้งลดเหงื่อและระงับกลิ่น
- เลือกแบบไหนดี?: ลองเริ่มจาก Deodorant ก่อน หากยังรู้สึกว่าเอาไม่อยู่ หรือเหงื่อออกเยอะมาก อาจลองเปลี่ยนเป็น Antiperspirant หรือแบบผสม
- เลือกสูตรที่ใช่: มีทั้งแบบโรลออน (Roll-on), สติ๊ก (Stick), สเปรย์ (Spray) ลองเลือกแบบที่ชอบและใช้งานสะดวก / อาจมองหาสูตรสำหรับผิวบอบบาง หรือไม่มีแอลกอฮอล์ หากรู้สึกระคายเคืองง่าย
- วิธีใช้: ทาบนผิวที่ สะอาดและแห้งสนิท หลังอาบน้ำ จะได้ผลดีที่สุด และอาจพกติดตัวไว้เติมระหว่างวัน หากจำเป็น
3. เสื้อผ้าก็สำคัญนะ:
- เลือกเนื้อผ้า: ใส่เสื้อผ้าที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้าย (Cotton), ผ้าลินิน (Linen) ซึ่งระบายอากาศได้ดี เหมาะกับอากาศร้อนๆ เลี่ยงเสื้อผ้าใยสังเคราะห์ที่รัดแน่นๆ (เช่น โพลีเอสเตอร์บางชนิด) เพราะจะทำให้อับชื้นและเกิดกลิ่นง่าย
- ใส่เสื้อผ้าสะอาด: เปลี่ยนเสื้อผ้าและชุดชั้นในทุกวัน เสื้อผ้าที่ใส่แล้ว หรือเสื้อที่ชุ่มเหงื่อ ควรซักให้สะอาด อย่าหมักหมมไว้
4. เรื่องอาหารการกิน (อาจมีผลเล็กน้อย):
- อาหารบางชนิดที่มีกลิ่นแรง เช่น กระเทียม, หัวหอม, เครื่องเทศจัดๆ อาจจะ ส่งผลต่อกลิ่นกายของบางคนได้บ้าง แต่ไม่ใช่ปัจจัยหลัก
- การดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ ช่วยให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ดี
5. ดูแล “กลิ่นเท้า” ด้วย:
- เท้าเป็นอีกจุดที่มีเหงื่อเยอะและเกิดกลิ่นได้ง่าย ควรล้างเท้าให้สะอาดทุกวัน เช็ดให้แห้งสนิท โดยเฉพาะตามซอกนิ้วเท้า
- ใส่ถุงเท้าที่สะอาด (เลือกผ้าฝ้ายจะระบายอากาศดีกว่า) และเปลี่ยนทุกวัน
- สลับรองเท้าใส่บ้าง เพื่อให้รองเท้าได้ระบายอากาศและแห้งสนิท
- หากมีปัญหากลิ่นเท้ามาก อาจใช้สเปรย์หรือแป้งสำหรับระงับกลิ่นเท้าช่วยได้
ส่งท้าย:
การมีกลิ่นตัวเป็นเรื่องปกติของการเติบโต ไม่ใช่เรื่องที่ต้องอาย แค่เราดูแลสุขอนามัยให้ดี เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม และใส่ใจเรื่องเสื้อผ้า ก็สามารถจัดการปัญหานี้และใช้ชีวิตวัยรุ่นได้อย่างมั่นใจแล้ว! ถ้าลองทำตามเคล็ดลับเหล่านี้แล้วยังรู้สึกกังวลมากๆ หรือกลิ่นตัวแรงผิดปกติ อาจลองปรึกษาคุณพ่อคุณแม่หรือผู้ปกครอง เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม หรือปรึกษาคุณหมอก็ได้นะ
จำไว้ว่า การดูแลตัวเองก็เป็นส่วนหนึ่งของการเติบโต สู้ๆ นะวัยรุ่น!