แครอท นอกจากจะเป็นผักที่อร่อยและมีประโยชน์แล้ว ยังเป็นส่วนผสมที่น่าสนใจในสกินแคร์อีกด้วย ด้วยสารเบต้าแคโรทีนที่ทำให้แครอทมีสีส้ม แต่กลับมีผลลัพธ์ที่น่าทึ่งต่อผิวพรรณ
สารสกัดจากแครอทคืออะไร?
น้ำมันแครอท เป็นน้ำมันหอมระเหยที่มีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านอนุมูลอิสระ และต้านการอักเสบ สามารถสกัดได้หลายวิธี และสารสกัดจากแครอทไม่ได้มาจากเมล็ดเสมอไป แต่มีคุณสมบัติคล้ายกับน้ำมันหอมระเหยอื่นๆ น้ำมันแครอทสำหรับสกินแคร์ ใช้สำหรับทาภายนอกเท่านั้น ห้ามรับประทาน
ประโยชน์ของสารสกัดจากแครอทต่อผิว
- อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ: เบต้าแคโรทีนในน้ำมันแครอทอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ ที่ทำลายผิว เช่น มลภาวะทางอากาศ และรังสียูวี
- เพิ่มการผลัดเซลล์ผิว: เบต้าแคโรทีน เป็นสารตั้งต้น ของวิตามินเอ ซึ่งมีหน้าที่ ในการสร้างเซลล์ผิวใหม่ เมื่อทาลงบนผิว จึงช่วยเร่ง การผลัดเซลล์ผิว เผยผิวใหม่ ที่ดูอ่อนเยาว์ และสุขภาพดี
ผลข้างเคียงของสารสกัดจากแครอท
- ผิวเปลี่ยนสี: การรับประทานแครอทมากเกินไป อาจทำให้ผิว มีสีเหลืองอมส้ม เช่นเดียวกับ การใช้สารสกัดจากแครอท ในปริมาณมาก อาจทำให้ผิว เปลี่ยนสีได้ ดังนั้น ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ส่วนใหญ่ จึงมีส่วนผสม ของสารสกัดจากแครอท ในปริมาณเล็กน้อย และมักอยู่ ในลำดับกลางๆ หรือท้ายๆ ของรายการส่วนผสม
- ระคายเคือง: ควรใช้ผลิตภัณฑ์ ที่มีส่วนผสม ของสารสกัดจากแครอท ในปริมาณมาก ในตอนกลางคืน เนื่องจาก เบต้าแคโรทีน อาจเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน เมื่อสัมผัสกับแสงแดด และความร้อน ซึ่งอาจทำให้ผิว เปลี่ยนสี และระคายเคือง
วิธีใช้
คุณไม่จำเป็นต้อง รับประทานแครอท เพื่อให้ได้ ประโยชน์ ต่อผิว เพียงแค่เลือกใช้ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ที่มีส่วนผสม ของสารสกัดจากแครอท
น้ำมันแครอท ทำงานร่วมกับวิตามินอี ได้เป็นอย่างดี และควรผสม กับน้ำมันพื้นฐาน เช่น น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันเฮเซลนัท ก่อนทาลงบนผิว ไม่ควร ใช้น้ำมันแครอท บริสุทธิ์ ทาลงบนผิวโดยตรง