โบท็อกซ์ (Botox) คือชื่อทางการค้าของ OnabotulinumtoxinA สารสกัดจากแบคทีเรีย Clostridium botulinum ที่นำมาใช้เพื่อลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า ปรับรูปหน้า และรักษาโรคทางระบบประสาท
ประเภทของโบท็อกซ์:
- Botox (Allergan): โบท็อกซ์ชนิดแรกที่ได้รับการอนุมัติจาก อย. อเมริกา เหมาะสำหรับการลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า เช่น รอยย่นหน้าผาก รอยตีนกา และรอยขมวดคิ้ว
- Dysport (Ipsen): โบท็อกซ์ที่ออกฤทธิ์เร็ว เหมาะสำหรับการลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้าที่ลึกกว่า Botox
- Xeomin (Merz): โบท็อกซ์ที่ไม่มีโปรตีนเจือปน เหมาะสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดภูมิคุ้มกันต่อโบท็อกซ์
- Botox Cosmetic (Allergan): โบท็อกซ์สูตรเฉพาะสำหรับการเสริมความงาม เหมาะสำหรับการปรับรูปหน้า เช่น ยกคิ้ว ลดกราม และ thonning กรอบหน้า
- Juvederm (Allergan): ฟิลเลอร์ชนิดหนึ่ง ประกอบไปด้วย Hyaluronic acid เหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องลึกบนใบหน้า เช่น ร่องแก้ม รอยใต้ตา และรอยยิ้ม
- Restylane (Galderma): ฟิลเลอร์ชนิดหนึ่ง ประกอบไปด้วย Hyaluronic acid เหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องลึกบนใบหน้า เช่น ร่องแก้ม รอยใต้ตา และรอยยิ้ม
ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเลือกโบท็อกซ์:
- ประเภทของริ้วรอย
- รูปหน้า
- ความต้องการของผู้เข้ารับบริการ
- ประสบการณ์ของแพทย์
ข้อควรระวัง:
- โบท็อกซ์เป็นยา ควรฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- อาจมีผลข้างเคียง เช่น รอยฟกช้ำ บวม แดง และปวดศีรษะ
- ไม่ควรฉีดโบท็อกซ์ในขณะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ข้อควรปฏิบัติหลังการฉีดโบท็อกซ์
เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย ควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้:
4 ชั่วโมงแรก:
- งดนอนราบ ก้มหน้า หรือโน้มตัว
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า
- หลีกเลี่ยงความร้อน เช่น การอบซาวน่า การเข้าห้องอบไอน้ำ
- ทานยาแก้ปวดหากมีอาการปวด
24 ชั่วโมงแรก:
- งดนอนตะแคง
- งดการแต่งหน้า
- งดออกกำลังกาย
- งดดื่มแอลกอฮอล์
- งดสูบบุหรี่
48 ชั่วโมงแรก:
- งดการประคบเย็น
- หลีกเลี่ยงการนวดหน้า
1 สัปดาห์แรก:
- หลีกเลี่ยงการถู กด นวด บริเวณที่ฉีด
- สังเกตอาการผิดปกติ เช่น บวม แดง อักเสบ